ในปัจจุบันกัญชาทางการแพทย์เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการรักษาโรคมะเร็ง โดยสารสำคัญหลักที่ใช้นำมารักษาโรคคือ THC CBD ซึ่งเป็นสารสกัดจากกัญชาที่มีฤทธิ์ต่อสิ่งมีชีวิต แล้วนำสารในพืชชนิดนั้นมาสกัดให้เป็นสารบริสุทธิ์ เพื่อนำมาทดลองว่ามีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งแต่ละชนิดอย่างไร

จากงานวิจัยที่ได้ทดลองทั้งในห้องปฏิบัติการและสัตว์ทดลองผลภาพรวมนั้นออกมาในเชิงบวก กล่าวคือ ทั้งสารTHCและCBD สามารถยับยั้งและทำลายเซลล์มะเร็งได้หลายชนิดโดยไม่กระทบต่อเซลล์ปกติ รวมถึงลดการแพร่กระจายของมะเร็งได้ด้วย

ซึ่งในบทความต่อจากนี้จะกล่าวถึงการรักษามะเร็งด้วยสารสกัดกัญชา โดยยกตัวอย่างมา 6 อันดับมะเร็งที่จัดเป็นโรคมะเร็งร้ายแรงและพบมากเป็นอันดับต้นๆ ทั้งในประเทศไทยและทั่วโลก ได้แก่ มะเร็งตับ, มะเร็งปอด, มะเร็งปากมดลูก, มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งต่อมลูกหมาก

มะเร็งตับ มีปัจจัยเสี่ยงมาจากการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีและซี (hepatitis B virus; HBV และ hepatitis C virus; HCV) ซึ่งสามารถติดต่อได้ผ่านทางสารคัดหลั่ง ส่งผลทำให้ตับเกิดการอักเสบและซ่อมแซ่มตัวเองที่มากผิดปกติ จนเกิดมะเร็งตับในที่สุด จากการศึกษาพบว่า สาร CBD ในกัญชา สามารถยับยั้งตัวรับ TRPV2 จึงทำให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง (Program cell death)

มะเร็งปอด มีปัจจัยเสี่ยงจากการสูบบุหรี่ 85-90% ส่งผลให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุหลอดลมปอด และเกิดการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติอย่างรวดเร็ว  จากการศึกษาพบว่าสารTHC และ CBD ในกัญชา ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของตัวรับ CB1,CB2 และตัวรับอื่นๆ จึงสามารถลดการแพร่กระจายเซลล์มะเร็งไปยังส่วนอื่นๆ(Metastasis)และการสร้างเส้นเลือดใหม่ไปเลี้ยงเซลล์มะเร็ง(Angiogenesis) โดยการกระตุ้นให้เกิดการตายของเซลล์มะเร็ง (program cell death) ผ่านกระบวนการยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเร็ง

มะเร็งปากมดลูกเกิดจากเชื้อฮิวแมนแป๊ปปิโลม่าไวรัส Human papilloma virus (HPV) ซึ่งติดต่อไปยังบุคคลอื่นๆ ได้จากการมีเพศสัมพันธ์ โดยจากการศึกษาพบว่าสาร Cannabinol (CBN) ในกัญชาสามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนในเซลล์มะเร็งปากมดลูกได้

มะเร็งเต้านมเกิดจากการแบ่งตัวของเซลล์ภายในท่อน้ำนม และต่อมน้ำนมที่ผิดปกติ จนเกิดเป็นก้อนมะเร็งภายในเต้านม เป็นการกลายพันธุ์ของยีน BRCA1 หรือ BRCA2 ซึ่งสาร THC สามารถชักนำให้เซลล์เต้านม   เกิดกระบวนการตายของเซลล์แบบอะพอพโทซิส (เซลล์ทำลายหรือฆ่าตัวเอง) และพบว่าสาร CBD สามารถยับยั้งการเพิ่มจำนวนในเซลล์มะเร็งเต้านม โดยยับยั้ง Cyclooxygenase-2 (COX-2) เป็นกระบวนการอักเสบและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง

มะเร็งลำไส้ใหญ่ จากการศึกษาพบว่าสาร Tetrahydrocannabinol (THC) และสาร Cannabidiol (CBD) สามารถจับกับตัวรับ CB1 , CB2 นอกจากนี้สามารถจับกับ GPR55, TRPV1, TRPV2 , GPR18 , GPR119  เป็นต้น ซึ่งมีฤทธิ์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่  ลดการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง รวมทั้งลดอุบัติการณ์การเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่  ลดอาการปวดแบบเฉียบพลัน ช่วยยับยั้งการอักเสบที่เกิดขึ้นในระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้สารTHC และ CBD ยังช่วยเพิ่มความอยากอาหาร และช่วยให้ผู้ป่วยมะเร็งนอนหลับได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

มะเร็งต่อมลูกหมาก จากการศึกษาในระดับเซลล์พบว่า การให้สาร CBD ในรูปแบบสารสกัดของ ยาชีววัตถุ (biologic drug substances) หรือ CBS มีฤทธิ์สามารถยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่อมลูกหมากได้ แต่ต้องใช้สารCBD และ CBS ในปริมาณที่สูงขึ้น และยังสามารถช่วยเสริมฤทธิ์ยาเคมีบำบัดมะเร็งสูตรโดซีแทกเซล(Docetaxel)และไบคาลูไมด์(Bicaltamide) อีกด้วย

หากรู้ตัวว่าเป็นโรคมะเร็ง ผู้ป่วยมะเร็งควรทำใจให้สบายและมีความสุขในทุกวัน ซึ่งเป็นเรื่องเดียวที่ต้องทำด้วยตัวคุณเอง และวันนี้ทาง G wellness สหคลินิกก็จะมาบอกถึง “เคล็ด(ไม่)ลับ ฉบับเป็นมะเร็งไม่ต้องกลัว ดูแลตัว(และใจ)ให้สุขได้ ซึ่งขั้นตอนการปฏิบัติก็ไม่ได้ยากจนเกินไปเลยค่ะ นั่นก็คือ

1. รับประทานอาหารสะอาด สด และใหม่อยู่เสมอ ควรทานโปรตีนคุณภาพดี เช่น ไข่ขาว เนื้อไก่ เนื้อปลา หรือเต้าหู้ เลี่ยงของดิบ ของหมักดอง สามารถรับประทานอาหารที่มีน้ำตาลได้ แต่รักษาระดับให้พอดีนอกจากนี้สามารถรับประทานอาหารทะเลได้ด้วย แต่ต้องล้างให้สะอาด และปรุงให้สุก
2. รักษาน้ำหนักให้ดี เพราะหากน้ำหนักลดจะส่งผลให้ภูมิคุ้มกันลดลง จึงมีโอกาสติดเชื้อระหว่างการให้คีโมหรือฉายรังสีสูงขึ้น มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ ฟื้นตัวได้ช้า และที่สำคัญที่สุดคือจะลดประสิทธิภาพของการรักษาได้ ทำให้ต้องยืดระยะการรักษาไป จึงไม่เป็นผลดี
3. ระวังอย่าปล่อยให้ท้องผูก เพราะเมื่อท้องผูก จะไม่เกิดกระบวนการขับของเสีย ดังนั้นควรรับประทานผักผลไม้ ดื่มน้ำให้มาก หรือรับประทานยาระบายช่วยได้