สมุนไพรกับนักวิทย์รุ่นใหม่ ดร.เกรียงศักดิ์ ขาวเนียม
.
ใครๆ ก็รู้ถึงคุณค่าของสมุนไพรไทย แต่กว่าการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรจะต่อยอดในเชิงธุรกิจอย่างจริงจังได้ก็ผ่านมาเนิ่นนาน ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่เห็นคุณค่าของสมุนไพรพัฒนาต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ และส่งออก ดร.เกรียงศักดิ์ ขาวเนียม เป็นอีกคนที่หลงใหลในสมุนไพรมานานด้วยความที่คุณตาเป็นหมอยาแผนโบราณ มีตำรายาโบราณที่ผ่านตาของเขาตั้งแต่เด็ก และเขาก็หายจากหอบหืดด้วยสมุนไพร
.
เขาสั่งสมองค์ความรู้ด้านสมุนไพรมาตลอดจากการเป็นนักเรียนทุนโครงการส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี (พสวท.) ตั้งแต่ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายต่อเนื่องจนสำเร็จระดับปริญญาเอกทางด้านเภสัชเคมี (Medicinal Chemistry) ที่ University of Kansas และได้ผ่านประสบการณ์เป็นทั้งอาจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ทำงานร่วมกับภาคเอกชน และภาครัฐมาหลายโครงการ อาทิ ทำงานโครงงานร่วมกับศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ในโครงงาน ฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียจากผักบางชนิด (Antibacterial Activity of Protein Hydrolysate from Some Vegetables)
.
การสะสมประสบการณ์ทางด้านการผลิตผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรของเขา พัฒนาจนมีความเชี่ยวชาญทางด้านออกแบบตัวยา การสังเคราะห์สาร การตั้งสูตรตำรับสมุนไพร งานวิจัยเภสัชเคมี และได้พัฒนานวัตกรรมเองที่มีชื่อว่า Nano-encapsulation Technology หรือระบบกักเก็บสารสำคัญด้วยเทคโนโลยีห่อหุ้มระดับนาโน เพื่อนำมาใช้ในกระบวนการผลิตสมุนไพร เรียกง่ายๆ ว่าทำให้สมุนไพรละลายน้ำได้ดี หมายถึงตัวยาในสมุนไพรดูดซึมได้เร็วและดีขึ้น
.
ด้วยความเป็นนักวิทยาศาสตร์รุ่นใหม่ที่ไม่คิดที่จะดองงานวิจัยไว้บนหิ้ง เขาจึงมีแนวคิดที่จะนำสมุนไพรผลิตภัณฑ์และขยายผลทางการตลาด ภายใต้บริษัท อินโนเมดิก้า จำกัด โดยนำนวัตกรรม Nano-encapsulation Technology ต่อยอดหลายผลิตภัณฑ์ อย่างผลิตภัณฑ์ฟ้าทะลายโจร เม้าสเปรย์ ซึ่งออกจำหน่ายในช่วงโควิด และได้รับความสนใจจากตลาด จนได้รับรางวัลเหรียญทองแดง เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2566 จากงานประกวดนวัตกรรมประจำปีในงานประชุมวิชาการระดับนานาชาติ International Exhibition of Inventions of Geneva สวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งก่อนหน้าเมื่อปี 2560 ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือกลุ่มเสี่ยง ก็ได้รับรางวัลเหรียญทอง จากเวทีเดียวกัน
.
สำหรับการพัฒนาสมุนไพรล่าสุดของเขากำลังออกจำหน่ายในตลาดเป็นผลิตภัณฑ์สุขภาพที่ผลิตจากสมุนไพร 100% เช่นกัน โดยนำขมิ้นชัน ราสเบอร์รี่ ชาเขียว เป็นต้น มาผลิตภายใต้นวัตกรรม Nano-encapsulation Technology ทำให้สารออกฤทธิ์ของเคอร์คิวมิน (Curcumin) ในขมิ้นชัน ถูกดึงเข้าสู่ร่างกายได้รวดเร็ว ที่เรียกว่ากระบวนการเอ็นโดไซโทซิส (Endocytosis) ที่ช่วยให้ร่างกายดูดซึมได้เต็มที่ 100%
.
“ประโยชน์ของขมิ้นชันอย่างที่หลายคนทราบดีว่าช่วยต้านการอักเสบได้ดี ช่วยดีท็อกซ์ตับ มีสารต้านอนุมูลอิสระ เราจึงนำขมิ้นชันที่ทั่วโลกรู้จักถึงสรรพคุณอยู่แล้วนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ชื่อว่า FINFIN เหมาะกับผู้ที่ร่างกายขาดการบำรุง นอนดึก นอนน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ หรือผู้ที่อยู่สายปาร์ตี้ ซึ่งเราจะจำหน่ายในประเทศก่อน และกำลังดีลเพื่อส่งออกไปหลายๆ ประเทศ”
.
ดร.เกรียงศักดิ์ บอกถึงแนวคิดของเขาในฐานะที่นำสมุนไพรมาต่อยอดใช้ประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ ว่า สภาพภูมิประเทศและอากาศของประเทศไทยสามารถปลูกสมุนไพรไทยเป็นวัตถุดิบได้มากมายและมีคุณภาพ ขณะที่เราก็มีงานวิจัยถึงเกี่ยวกับสมุนไพรไทย แต่ขาดการเชื่อมต่อ ทำให้สมุนไพรไทยไม่ถูกต่อยอดเท่าที่ควร หรืออยู่ในระดับของโอทอปเท่านั้น ชุมชนเองแม้จะมีวัตถุดิบก็ขาดเงินทุนที่จะนำมาใช้ซื้อเครื่องจักรสำหรับการสกัดสมุนไพร ขณะที่ภาคเอกชนก็ต้องการวัตถุดิบที่มีคุณภาพ จึงอยากฝากภาครัฐให้เข้ามาเชื่อมร้อย โดยอาจตั้งเป็นโครงการ One Machine One Tambon หรือ 1 ตำบล 1 เครื่องจักร โดยจัดตั้งเป็นวิสาหกิจ มีชุมชนผู้ปลูกสมุนไพรถือหุ้นร่วมกับเอกชนผู้ผลิต และภาครัฐ เชื่อว่าแนวคิดนี้จะทำให้การพัฒนาสมุนไพรไทยเป็นไปอย่างเป็นระบบ ได้มาตรฐาน สามารถขยายผลทางการตลาดได้ ทำให้สมุนไพรถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างเต็มคุณค่า
#สมุนไพรไทย #นักวิทยาศาสตร์ #ขมิ้นชัน #ฟ้าทะลายโจร
#แพทย์แผนไทย #แพทย์แผนไทยประยุกต์ #ทางเลือกการรักษา
#โปรโมชั่นรักษาครั้งแรกฟรีสมาชิก#ให้ฉันช่วยไหม #สเปรย์ผ่อนคลายกล้ามเนื้อ #gwell #gmall